เมนู

มาดีแล้วหนอ วิชชา 3 เราบรรลุแล้วโดยลำดับ คำสอนของ
พระพุทธเจ้า เราได้ทำเสร็จแล้ว.

คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8 และ
อภิญญา 6 เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า
เราได้ทำเสร็จแล้ว
ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระสัพพทายกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วย
ประการฉะนี้แล.
จบสัพพทายกเถราปทาน

อชิตเถราปทานที่ 10 (400)


ว่าด้วยผลแห่งการถวายประทีป


[402] พระชินเจ้าพระนามว่า ปทุมุตตระ ทรงรู้จบธรรมทั้งปวง
ผู้นายกของโลก เสด็จสู่ภูเขาหิมวันต์ แล้วประทับนั่งอยู่.

เราไม่ได้ (เคย) เห็นพระสัมพุทธเจ้า แม้เสียงของ
พระองค์ เราก็ไม่เคยได้ฟัง เราเที่ยวแสวงหาอาหารของเรา
อยู่ในป่า.

ได้เห็นพระสัมพุทธเจ้ามีพระลักษณะอันประเสริฐ 32
ประการในป่านั้น ครั้นเห็นแล้วจึงได้คิดว่า สัตว์นี้ชื่อว่า
อะไร.

เรามองดูลักษณะทั้งหลายแล้ว ระลึกถึงความรู้ของเราได้
ความจริงเราได้ยินมาว่า ลักษณะนี้เป็นของพระพุทธเจ้า
บัณฑิตทั้งหลายก็กล่าวไว้.

ผู้นี้จักเป็นพระพุทธเจ้าจริงเหมือนคำของบัณฑิตเหล่านั้น
ถ้าเป็นนั้น เราควรสักการะพระองค์ พระองค์จะชำระคติของ
เราได้.

เราจึงรีบกลับมาสู่อาศรม ถือเอาน้ำผึ้งและน้ำมัน ถือ
เอาหม้อแล้ว เข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้าผู้ทรงแนะนำให้วิเศษ.

ถือเอาไม้ 3 ท่อนไปวางไว้ที่กลางแจ้ง ก่อไฟให้ลุกโพลง
แล้วได้ถวายบังคม 8 ครั้ง.

พระพุทธเจ้าผู้อุดมบุรุษ ประทับนั่งอยู่ตลอด 7 คืน 7 วัน
พระพุทธเจ้าผู้นำโลกเสด็จลุกขึ้น ในเมื่อราตรีนั้นปราศไป.

เรามีจิตเลื่อมใสโสมนัส ได้ตามประทีปถวายแด่พระ-
พุทธเจ้าด้วยมือทั้งสองของตน ตลอด 7 คืน 7 วัน.

กลิ่นหอมทุกอย่างอันมีอยู่ในป่าที่ภูเขาคันธมาทน์ มา
หอมพุ่งอยู่ในสำนักพระพุทธเจ้าด้วยพุทธานุภาพ.

เวลานั้นต้นไม้มีดอกหอมทุกชนิด ดอกบานสะพรั่ง โชย
กลิ่นมาหอมตลบพร้อมกัน ด้วยพุทธานุภาพ.

นาคและครุฑทั้งสองพวกที่ภูเขาหิมวันต์มีประมาณเท่าใด
นาคและครุฑเหล่านั้นต้องการจะฟังธรรม จึงพากันมาในสำนัก
พระพุทธเจ้า.

พระสมณะนามว่าเทวละ เป็นอัครสาวกของพระพุทธเจ้า

ท่านพร้อมด้วยพระอรหันต์หลายแสน เข้ามาสู่สำนักพระ-
พุทธเจ้า.

พระพุทธเจ้าพระนามว่า ปทุมุตตระ ทรงรู้แจ้งโลก ผู้ควร
รับเครื่องบูชา ประทับนั่งในท่ามกลางภิกษุสงฆ์แล้ว ได้ตรัส
พระคาถาเหล่านี้ว่า

ผู้ใดมีความเลื่อมใส ตามประทีปถวายเราด้วยมือทั้งสอง
ของตน เราจักพยากรณ์ผู้นั้น ท่านทั้งหลายจงฟังเรากล่าว.
เขาจักรื่นรมย์อยู่ในเทวโลกตลอดหกหมื่นกัป และจักได้
เป็นพระเจ้าจักรพรรดิราช 1,000 ครั้ง.

จบภาณวารที่ 16
จักได้เป็นจอมเทวดาเสวยรัชสมบัติในเทวโลก 36 ครั้ง
จักได้เสวยรัชสมบัติอันไพบูลย์ในปฐพี 300 ครั้ง.

จักได้เป็นพระเจ้าประเทศราชอันไพบูลย์โดยคณานับมิได้
ด้วยการตามประทีปถวายนี้ จักเป็นผู้มีทิพยจักษุ.

ผู้นี้จักมองเห็นไกล 250 ชั่วธนูโดยรอบทุกเมื่อ เมื่อเขา
จุติจากเทวโลก บังเกิดเป็นคน.

ประทีปจักทรงอยู่ตลอดทั้งกลางวันกลางคืน เมื่อผู้นี้เกิด
พรั่งพร้อมด้วยบุญกรรม.

ตลอดทั่วนครจักโชติช่วง ผู้นี้เข้าถึงกำเนิดใด คือ เป็น
เทวดาหรือมนุษย์.

เพราะผลแห่งการตามประทีปถวาย 8 ดวงนั้น ชนทั้งหลาย
จักบำรุงผู้นี้ นี้เป็นผลแห่งการตามประทีปถวาย.

ในแสนกัปแต่กัปนี้ พระศาสดามีพระนามชื่อว่า โคดม
ซึ่งมีสมภพในวงศ์พระเจ้าโอกกากราช จักเสด็จอุบัติในโลก.

ผู้นี้จักเป็นทายาทในธรรมของพระศาสดาพระองค์นั้น จัก
เป็นโอรสอันธรรมนิรมิต จักกำหนดรู้อาสวะทั้งปวงแล้ว เป็น
ผู้ไม่มีอาสวะ นิพพาน.

ยังพระสัมพุทธเจ้าพระนามว่า โคดมศากยบุตร ให้ทรง
โปรดปรานแล้ว จักได้เป็นสาวกของพระศาสดา มีนามชื่อว่า
อชิตะ.

เรารื่นรมย์อยู่ในเทวโลกตลอดหกหมื่นกัป แม้ในเทวโลก
นั้น ประทีป 100 ดวงส่องสว่างให้แก่เราเป็นนิตยกาล.

รัศมีของเราพุ่ง (โพลง) ออกไปในเทวโลกและมนุษยโลก
เราระลึกถึงพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุดแล้ว ยังความโสมนัส
ให้เกิดยิ่ง.

เราจุติจากเทวโลกชั้นดุสิตแล้ว ลงสู่ครรภ์มารดา เมื่อ
เราเกิด ได้มีแสงสว่างอย่างไพบูลย์.

เราออกจากเรือนแล้ว บวชเป็นบรรพชิต ได้เข้าไปหา
พราหมณ์พาวรี ยอมตนเข้าเป็นศิษย์.

เมื่อเราอยู่ที่ภูเขาหิมวันต์ ได้ทราบข่าวพระพุทธเจ้าผู้นำ
ของโลก เราแสวงหาประโยชน์อันสูงสุด จึงเข้าไปเฝ้า
พระองค์.

พระพุทธเจ้าผู้ฝึกพระองค์แล้ว ทรงฝึกแม้ผู้อื่น ทรงข้าม
โอฆะแล้ว เป็นผู้ไม่มีอุปธิ ตรัสบอกนิพพานเครื่องพ้นจาก
ทุกข์ทั้งปวง.

กรรมของเรานั้นสำเร็จประโยชน์ เรายังพระมหามุนีให้
ยินดี วิชชา 3 เราบรรลุแล้วโดยลำดับ คำสอนของพระ-
พุทธเจ้าเราได้ทำเสร็จแล้ว.

ในกัปที่แสนแต่กัปนี้ เราได้ถวายประทีปใด ในกาลนั้น
ด้วยการถวายประทีปนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เห็นผลแห่ง
การถวายประทีป.

เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ถอนภพขั้นรู้ทั้งหมดแล้ว ตัด
กิเลสเครื่องผูกดังช้างตัดเชือกแล้ว เป็นผู้ไม่มีอาสวะอยู่.

การที่เราได้มาในสำนักพระพุทธเจ้าของเรานี้ เป็นการ
มาดีแล้วหนอ วิชชา 3 เราบรรลุแล้วโดยลำดับ คำสอนของ
พระพุทธเจ้าเราได้ทำเสร็จแล้ว.

คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8 และ
อภิญญา 6 เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า
เราได้ทำเสร็จแล้ว
ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระอชิตเถระได้กล่าวคาถาเหล่านั้น ด้วยประการ
ฉะนี้แล.
จบอชิตเถราปทาน

อรรถกถาปทานที่ 8-10


อปทานที่ 8, 9, 10 มีเนื้อความง่ายทั้งนั้นแล.
จบอรรถกถาปิลินทวรรคที่ 40

รวมอปทานที่มีในวรรคนี้ คือ


1. ปิลินทวัจฉถราปทาน 2. เสลเถราปทาน 3. สัพพกิตติก-
เถราปทาน 4. มธุทายกเถราปทาน 5. ปทุมกูฏาคาริกเถราปทาน
6. พักกุลเถราปทาน 7. คิริมานันทเถราปทาน 8. สลฬมัณฑปิย-
เถราปทาน 9. สัพพทายกเถราปทาน 10. อชิตเถราปทาน.
ท่านนับคาถาได้ 250 คาถา.
จบปิลินทวรรคที่ 40

และรวมวรรคได้ 10 วรรค คือ


1. ปทุมเกสริยวรรค 2. อารักขทายกวรรค 3. อุมมาปุปผิยวรรค
4. คันโธทกวรรค 5. เอกปทุมวรรค 6. สัททสัญญิกวรรค 7.
มันทารวปุปผิยวรรค 8. โพธิวันทนวรรค 9. อัมพฏผลวรรค 10.
ปิสินทวรรค และคำนวณคาถาได้ 1,174 คาถา
จบหมวด 10 แห่งปทุมวรรค
จบหมวด 100 ที่ 4 (400 อปทาน)